ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการตลาด (Marketing) การสร้างแบรนด์ (Branding) การประชาสัมพันธ์ (Public Relations) รวมถึงการประชุมเสนอไอเดียต่างๆ คำว่า Key Message ที่เราเรียกว่าข้อความหรือเนื้อหาหลักในสื่อสารสู่กลุ่มผู้ฟังเป้าหมาย นับเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดและถือว่าเป็นรากฐานสำหรับการสื่อสารในทุกรูปแบบครับ เพราะมันจะช่วยให้ดึงดูดและควบคุมให้กลุ่มเป้าหมายต้องอยู่ในมนต์สะกดกับสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อสารออกไป และในบทความนี้จะอธิบายถึงวิธีการคิด Key Message ในแบบที่น่าสนใจและน่าดึงดูดใจ (Compelling Key Message) ที่จะช่วยให้การสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ
เชื่อว่าหลายๆคนจะคุ้นหูกับคำว่า Key Message อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่ทำงานในสายการตลาด (Marketing) การสื่อสาร (Communications) การสร้างแบรนด์ (Branding) รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ (Public Relations) ซึ่งมันก็คือ ข้อความหรือคำพูดที่สำคัญที่เป็นแก่นของสิ่งที่คุณกำลังจะนำเสนอและต้องการจะสื่อสารออกไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยมันไม่ใช่การที่คุณพูดในสิ่งที่คุณอยากพูด แต่เป็นสิ่งที่คุณอยากให้กลุ่มผู้ฟังเป้าหมายนั้นรับรู้ว่าอย่างไรและอยากให้เกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มผู้ฟังเป้าหมาย และนั่นก็หมายถึงการต้องรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ฟังเป้าหมายต้องการจะได้ยินจากคุณ Key Message ถือว่าเป็นเรื่องที่ทรงพลังมากๆสำหรับการสื่อสารครับ และการสื่อสารจะประสบความสำเร็จได้ก็มาจากการคิด Key Message ที่ใช่ เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้ฟังเป้าหมายให้ได้นั่นเอง โดย Key Message ก็สามารถนำมาใช้ได้กับหลายๆกิจกรรม เช่น
ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนมาเป็นอย่างดีไม่แพ้การวางกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อให้เหมาะสมและตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการสื่อสารในแต่ละเรื่อง เพราะความชัดเจนและความต่อเนื่องของ Key Message นั้นจะช่วยให้กลุ่มผู้ฟังเป้าหมายเห็นภาพทั้งหมด และเชื่อมโยงไปถึงผู้ฟังให้เห็นว่าสิ่งที่คุณสื่อสารออกมานั้นมันเติมเต็มพวกเขาได้อย่างไรนั่นเอง ดังนั้นเรื่องของ Key Message ที่ดึงดูดใจจึงค่อนข้างเกี่ยวเนื่องกับความรู้สึกทางอารมณ์ การเชื่อมโยงระหว่างคุณกับผู้ฟัง การสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกที่ดีมากที่สุด
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับว่า Key Message นั้นมีความสำคัญมากและเป็นรากฐานของการสื่อสารทุกรูปแบบ ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องระดมทีมที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร เข้ามามีส่วนร่วมอย่างพร้อมเพรียงและให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นรวมไปถึงขัดเกลาให้ Key Message ในการสื่อสารนั้นออกมาเหมาะสมที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย
เมื่อคุณได้รายละเอียดทั้ง 4 ข้อข้างต้นแล้วทีนี้ก็มาลองขัดเกลาหรือปรับแต่ง Key Message ในขั้นแรกให้ตอบโจทย์ โดยควรตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ให้ได้
นอกจากนั้นสิ่งที่มีความสำคัญในการสร้างให้ Key Message นั้นมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นก็คือ เรื่องของ Tone of Voice หรือ Brand Voice ของแบรนด์คุณครับว่ามีลักษณะอย่างไร จะใช้มันอย่างไร ในสถานการณ์แบบใด เช่น จริงจัง ดุดัน ผ่อนคลาย ซึ่งนั่นก็ต้องทำความเข้าใจกลุ่มผู้ฟังเป้าหมายให้ได้อย่างชัดเจน และมันจะช่วยเติมเต็มอารมณ์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ในช่วงแรกของการสร้าง Key Message จะทำให้คุณได้ไอเดียในการสร้างสรรค์คำพูดหรือข้อความหลักๆ ที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารตามวัตถุประสงค์และสถานการณ์ ซึ่งมันสามารถทำให้คุณนำออกไปแตกเป็นแนวทางในการเล่าเรื่องในแบบต่างๆ และคุณก็ควรมีข้อมูลมาสนับสนุนสิ่งที่คุณกำลังทำ จากนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วครับว่าจะสื่อสาร Key Message ออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง เช่น การแสดงเป็นข้อมูล สถิติ การเล่าเรื่องแบบ Storytelling และอื่นๆที่เหมาะสม
สำหรับการระดมสมองนั้นมันก็มีหลากหลายแบบครับ หากใครสนใจเทคนิคการระดมสมองในแบบต่างๆ ก็ลองเข้ามาดูที่บทความนี้ได้ครับ >>> รวมเทคนิคการระดมสมอง (Brainstorming) ที่น่าสนใจ
หลังจากที่ระดมสมองอันหนักหน่วงเสร็จสิ้นแล้วในขั้นต่อไปก็เป็นการปรับแต่ง Key Message ให้ออกมาดีต่อจากช่วงแรก โดยต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ครับ
ถ้าคุณกับทีมที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารลองเอามาทบทวนดูแล้ว ยังเห็นว่ามันยังดูไม่เนียนตาและยังย้อนแย้งกันในบางประเด็น ก็ควรนั่งปรับแต่งออกมาใหม่แล้วค่อยไปสู่ระยะที่ 3 ครับ
เมื่อคุณใช้เวลาในการระดมสมองจนได้ Key Message ที่ดีที่สุดแล้ว ก็ได้เวลานำมาทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายภายนอก โดยหากเป็นแบบเต็มกระบวนการจริงๆก็ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทำเป็นการประชุมย่อยๆเพื่อทดสอบ Key Message กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม หากยังไม่ดีพอก็นำกลับมาปรับแต่งจนกว่าจะได้ Key Message ที่สมบูรณ์แบบ และอย่าลืมทดสอบเป็นระยะครับว่า Key Message ต่างๆนั้นยังคงมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเริ่มสร้าง Key Message แบบดึงดูดใจได้แล้วครับ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมด